หนึ่งในสวัสดิการที่ข้าราชการทุกคนควรให้ความสำคัญ คือ ค่ารักษาพยาบาล ซึ่งถือเป็นสิทธิพื้นฐานที่ภาครัฐจัดสรรให้เพื่อรองรับเหตุฉุกเฉินทางสุขภาพ และดูแลครอบครัวของข้าราชการให้มีคุณภาพชีวิตที่มั่นคง สวัสดิการด้านนี้ไม่ใช่แค่การรักษาตนเองเท่านั้น แต่ยังครอบคลุมถึงบิดา มารดา คู่สมรส และบุตรตามเกณฑ์ที่กำหนด ซึ่งมีรายละเอียดที่ต้องเข้าใจอย่างรอบด้าน เพราะการใช้สิทธิเบิกค่ารักษาพยาบาลนั้นต้องอยู่ภายใต้หลักเกณฑ์ที่ชัดเจนจากทางราชการ และหากเข้าใจผิด อาจทำให้เสียโอกาสในการเบิกสิทธิ หรือเบิกเกินเกณฑ์ที่กำหนด
ผู้มีสิทธิได้รับค่ารักษาพยาบาลภายใต้ระบบข้าราชการ
ผู้ที่สามารถใช้สิทธิเบิกค่ารักษาพยาบาลภายใต้บัญชีของข้าราชการได้ มีดังนี้
- ตัวข้าราชการเอง
- บิดาและมารดาโดยชอบด้วยกฎหมาย
- คู่สมรสที่จดทะเบียนสมรสอย่างถูกต้อง
- บุตรโดยชอบด้วยกฎหมาย ไม่เกิน 3 คนตามลำดับก่อนหลัง
สำหรับบุตร ต้องยังไม่บรรลุนิติภาวะ หรือแม้บรรลุนิติภาวะแล้ว แต่ยังอยู่ในภาวะ “ไร้ความสามารถ” หรือ “เสมือนไร้ความสามารถ” ที่ข้าราชการเป็นผู้ดูแลเลี้ยงดูอยู่เท่านั้น บุตรบุญธรรม หรือบุตรที่ยกให้บุคคลอื่นเป็นผู้รับเลี้ยงในทางกฎหมายจะไม่อยู่ในขอบเขตของสิทธิ หากบุตรคนใดในจำนวน 3 คนแรกเสียชีวิตก่อนบรรลุนิติภาวะ หรือไม่สามารถเข้ารับการรักษาได้ตามเกณฑ์ ข้าราชการมีสิทธิเบิกค่ารักษาสำหรับบุตรคนถัดไปแทนได้
ขอบเขตของค่ารักษาพยาบาลที่สามารถเบิกได้
ค่ารักษาพยาบาลที่อยู่ในข่ายเบิกได้ มีรายละเอียดดังนี้
- ค่ายาและสารทางการแพทย์ เช่น ค่าเลือด ออกซิเจน ยา น้ำเกลือ อาหารทางเส้นเลือด
- ค่าอุปกรณ์ทางการแพทย์ เช่น อวัยวะเทียม อุปกรณ์ช่วยหายใจ อุปกรณ์ฟื้นฟูร่างกาย
- ค่าตรวจและวิเคราะห์ ทั้งในระดับทั่วไปและเฉพาะทาง
- ค่าห้องและค่าอาหาร สำหรับผู้ป่วยใน
- ค่าตรวจสุขภาพประจำปี (เฉพาะในสถานพยาบาลของรัฐ)
หลักเกณฑ์และอัตราเบิกจ่ายที่ต้องรู้
- สถานพยาบาลของรัฐ
- เบิกได้เต็มจำนวนที่จ่ายจริง ทั้งกรณีผู้ป่วยในและผู้ป่วยนอก
- สถานพยาบาลเอกชน
- เบิกได้เฉพาะกรณีฉุกเฉินเท่านั้น เช่น อุบัติเหตุ อุบัติภัย หรือภาวะเร่งด่วนที่หากไม่รักษาโดยทันทีอาจอันตรายถึงชีวิต
- เบิกได้เพียง “ครึ่งหนึ่ง” ของจำนวนเงินที่จ่ายจริง และไม่เกิน 3,000 บาทต่อครั้ง
- ค่ายา
- ต้องเป็นยาที่อยู่ใน บัญชียาหลักแห่งชาติ หรือมีใบรับรองจากสถานพยาบาลว่า “จำเป็นต้องใช้ยานอกบัญชี”
- ค่าอุปกรณ์และอวัยวะเทียม
- เบิกได้ตามอัตราที่กระทรวงการคลังกำหนด ไม่ใช่เบิกเต็มจำนวน
- กรณีค่าห้องและอาหารผู้ป่วยใน
- เตียงสามัญ และค่าอาหาร เบิกได้ไม่เกิน วันละ 200 บาท
- กรณีอื่น เบิกได้ไม่เกิน วันละ 600 บาท และสูงสุดไม่เกิน 13 วัน ต่อครั้ง
- ตรวจสุขภาพประจำปี
- ข้าราชการ ลูกจ้างประจำ หรือผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญที่เข้ารับการตรวจในสถานพยาบาลของรัฐ มีสิทธิเบิกค่าตรวจตามรายการที่กำหนด
ข้อควรรู้เพิ่มเติมเพื่อไม่ให้เสียสิทธิ
- ต้องมีใบเสร็จรับเงินและเอกสารยืนยันจากสถานพยาบาลแนบทุกครั้งที่เบิก
- กรณีสถานพยาบาลเอกชน ต้องมีเอกสารแสดงว่าเป็น “เหตุจำเป็นเร่งด่วน”
- ต้องยื่นเรื่องเบิกให้ตรงตามขั้นตอนและภายในเวลาที่หน่วยงานราชการแต่ละแห่งกำหนด
- หากใช้สิทธิเกินกว่าที่ระเบียบกำหนด ต้องรับผิดชอบส่วนต่างด้วยตนเอง
ค่ารักษาพยาบาลคือสวัสดิการสำคัญที่ช่วยให้ข้าราชการและครอบครัวสามารถรับการรักษาที่จำเป็นได้โดยไม่ต้องแบกรับภาระค่าใช้จ่ายเพียงลำพัง แต่การใช้สิทธินี้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด จำเป็นต้องเข้าใจรายละเอียดอย่างชัดเจน ทั้งผู้มีสิทธิ ขอบเขตของการเบิก และอัตราเบิกจ่ายที่ภาครัฐอนุมัติ เมื่อเข้าใจระบบนี้อย่างถูกต้อง ข้าราชการจะสามารถใช้สิทธิได้อย่างเต็มที่ พร้อมทั้งบริหารจัดการด้านสุขภาพของครอบครัวได้อย่างมั่นคงและรอบคอบในทุกช่วงชีวิต